รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน 2561 ตอน “บุญทรง”สู้จากคุกเพื่อลูก เสี่ยงเดิมพันเอาชีวิตแลก

ปัญหาของ นายเดชณัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ บุตรชายนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาให้จำคุกในคดีทุจริตระบายข้าว หรือจีทูจี เป็นเวลา 42 ปี มีสาเหตุมาจากเรื่องอะไร ถึงย้ายตัวเองข้ามฝั่ง จากพรรคเพื่อไทยมาซบพรรคพลังประชารัฐ
เป็นเรื่องที่คอการเมืองคาดไม่ถึง เพราะสายสัมพันธ์เชียงใหม่คอนเนคชั่น ระหว่างบุญทรงกับครอบครัวนายใหญ่แน่นแฟ้นแทบเป็นเนื้อเดียวกัน ขนาดบุญทรงถวายชีวิตให้ได้ ยอมจบชีวิตสุดรันทดในคุกเพียงลำพัง
เมื่อบุญทรงตกระกำลำบากขนาดนี้ ลูกชายบุญทรงก็ควรได้เป็นตัวแทนเป็นทายาททางการเมืองต่อไปในอาณาจักรนายใหญ่ แต่กลับตาลปัตรอยู่พรรคเพื่อไทยไม่ได้ ลูกชายบุญทรงที่หวังจะลงส. ส. เชียงใหม่ในพื้นที่เดิมของพ่อก็ไม่ได้
ก่อนหน้านี้เมื่อหนึ่งเดือนที่แล้วคือเมื่อ 27 ก.ย. แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ร่วมแถลงเปิดตัวกลุ่มคนรุ่นใหม่เพื่อไทย ร่วม30 คน โดยมีนายเดชณัฐวิทย์ เป็นหนึ่งในสายเลือดใหม่ของพรรคเพื่อไทยด้วย
แต่คล้อยหลังมาได้หนึ่งเดือน ลูกชาย บุญทรง ก็ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งหากจะไปอยู่กับพรรคเครือข่ายอย่างไทยรักษาชาติ คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ แต่มาอยู่กับ พลังประชารัฐ กลายเป็นเรื่องทำให้หลายคนสงสัย?
ก่อนจะเกิดเหตุแตกหักระหว่างบุญทรงกับนายเก่ามีกระแสข่าวกระเซ็นกระสายมาตลอด ว่า ฝ่ายบุญทรงที่อยู่ในเรือนจำ ได้ฝากฝังลูกชายกับแกนนำพรรคเพื่อไทยภาคเหนือบางรายที่เคารพนับถือกัน เพื่อขอให้ผลักดันให้ลูกชายได้เป็นทายาทการเมืองในพรรคเพื่อไทย
โดยขอให้ส่งลูกชายลงสมัครส.ส.เขต จังหวัดเชียงใหม่ ในพื้นที่เลือกตั้งเดิมของตัวเอง ซึ่งบุญทรง เป็นอดีตส.ส.เชียงใหม่ มาถึง 4 สมัยแล้ว ก่อนจะพาสชั้นมาเป็นรัฐมนตรี ทั้งรมช.คลัง รมช.พาณิชย์ จนมาเป็นรมว.พาณิชย์
เป็นที่รู้กันดีว่า บุญทรง คือคนของผู้มากบารมีคนหนึ่งในพรรคเพื่อไทย ก่อนหน้านี้ก็คอยเดินตามหลัง บุคคลผู้นั้นตลอดหลายปี จนได้รับการผลักดันให้เป็นเสมือนหัวหน้าทีมเพื่อไทยในจังหวัดเชียงใหม่ จนขึ้น ชั้นเป็นรัฐมนตรีโควต้าเชียงใหม่
จุดนี้ เมื่อบุญทรงติดคุก ก็ทำให้ฝ่ายครอบครัวของบุญทรง มั่นใจว่า ยังไง หากลูกชายได้ลงส.ส.เพื่อไทย น่าจะเป็นส. ส. ได้แน่ ด้วยกระแสของเพื่อไทยในภาคเหนือโดยเฉพาะที่เชียงใหม่ และฐานเสียงเดิมของบุญทรงในพื้นที่ เกือบจะยี่สิบปี ดังนั้น จะทำให้ลูกชาย ได้เป็นส.ส.เชียงใหม่ตามรอยบิดาได้ไม่ยาก
แม้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น จังหวัดเชียงใหม่จะเหลือส.ส. 9 คนจากเดิมที่เคยมี 10คน แต่เรื่องดังกล่าวก็ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการจัดคนลงส.ส. ของเพื่อไทย หากแกนนำเพื่อไทยสายภาคเหนือบางคน ไม่ทอดทิ้งอดีตลูกน้องเก่า อย่างนายบุญทรง
แล้วอะไรคือ จุดที่ทำให้ ลูกชาย บุญทรง ต้องออกจากเพื่อไทย มาอยู่กับพรรคฝ่ายตรงข้ามอย่างพลังประชารัฐ จนถูกคนในเพื่อไทย ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ด่าไล่หลัง นี้คือสิ่งที่ผิดปกติที่สังคมอยากรู้
การตัดสินใจของลูกชายนายบุญทรง ที่กล้าหักกับเพื่อไทย ทางนายเดชณัฐวิทย์ ได้เปิดใจว่าการลาออกจากเพื่อไทย ทางนายบุญทรงก็ไฟเขียว ไม่ได้คัดค้าน และยังได้แนะนำให้ไปคุยกับ สองแกนนำพรรคพลังประชารัฐ
คือสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่เคยอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ยุคไทยรักไทยในมุ้งวังบัวบาน ถึงเรื่องอนาคตทางการเมือง จนสุดท้าย นำมาสู่การเข้าพลังประชารัฐ
นายเดชณัฐวิทย์ระบุว่า สาเหตุที่ออกจากเพื่อไทยเป็นเพราะถูกพาดพิง โจมตีให้เสียหาย จนเกิดความไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นภายในพรรคเพื่อไทยกันเอง นอกจากนั้นพอครอบครัวต้องการความช่วยเหลือ ดันมาขี่ซ้ำ หากอยู่เพื่อไทยต่อมันโหดร้าย
เรื่องราวของครอบครัวนายบุญทรงกับเพื่อไทย จึงน่าจะมีชนวนเหตุเป็นปัญหามาจากคดีขายข้าวจีทูจี ที่ทำให้บุญทรงติดคุก และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหนีคุก ซึ่งตอนนี้ปปช. มีการสอบสวนขยายผลเอาผิดคนที่เกี่ยวข้อง
เป้าหมายคือ เป็นกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังมหากาพย์การโกงขายข้าวจีทูจี ซึ่งมีการวางแนวทางสอบไปถึงคนที่ไม่ได้มีชื่ออยู่ในสำนวนคดีก่อน และเป็นโจรตัวจริงที่โกยเงินทอนไป แต่ยังลอยนวล
เลยทำให้คนใหญ่คนโตหลายคนเกิดอาการหนาวๆร้อนๆ กลัวจะโดนเปิดโปง จนถึงโดนดำเนินคดี เพราะข่าวว่าปปช. จะเอาบุญทรงเป็นพยานให้เปิดปากซัดทอดไปถึงตัวการใหญ่คนโกงที่วางแผนและได้เงินทอนจากการทำจีทูจีปลอมที่มี7-8สัญญา
ข่าวว่า มีการเข้าคุกออกคุกเพื่อสอบบุญทรง เลือกเอาบุญทรงเป็นพยานปากเอก โดยยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนบางอย่าง ที่เห็นชัดก็คือการดูแลสภาพการใช้ชีวิตในคุกให้ดีขึ้น ซึ่งได้เห็นว่าบุญทรงได้รับอนุญาตให้ออกมารักษาตัวโรงพยาบาลตำรวจ และกำลังจะผ่าตัดโรคหมอนรองกระดูกสันหลังอักเสบในวันนี้พรุ่งนี้
ฝ่ายบุญทรงก็ต้องยอมทำตามข้อตกลง ถ้าบุญทรงเปิดปากบอกความจริงกับปปช. ซึ่งเขาถือว่าเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะให้ข้อเท็จจริงสาวไปถึงคนที่อยู่เบื้องหลังมหากาพย์การโกงขายข้าวจีทูจีที่กลายเป็นจีทูเจี๊ยะ และจีทูเจ๊ ในที่สุด ก็เป็นไปได้ว่าเมื่อเจอหลักฐานเด็ดจากพยานปากเอกคราวนี้อาจจะมีคนติดคุกกันทั้งตระกูล
วันนี้ ถ้าบุญทรงเลือกทางที่จะพูดความจริงแล้ว เขาก็จะต้องใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน ปีเศษๆที่ผ่านนอกจากบุญทรงถูกทอดทิ้งให้รับกรรมในคุกอย่างลำบากแล้ว ต่อไปชีวิตเขาอาจจะตกในห้วงอันตรายทุกนาที เพราะเป็นเป้าการเอาชีวิต เพื่อปิดปาก เพราะคุณค่าชีวิตหนึ่งในคุก มีราคาแค่บุหรี่ซองเดียว
ส่วนทายาทก็ถูกตัดหางปล่อยวัดไปแล้ว ซึ่งเป็นเหตุที่นายเดชณัฐวิทย์ต้องอพยพหนีจากค่ายเพื่อไทย ไปซับน้ำตาอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐ
เรื่องนี้คนเพื่อไทยสายเหนือรู้กันว่า มีคำสั่งของคนมีอำนาจบางคน สั่งไม่สนับสนุนลูกชายบุญทรงลงทำงานการเมือง โดยได้ยึดโควต้าผู้ลงสมัครส.ส.เชียงใหม่ คืนไปแล้ว ปละวางตัวอดีตผู้ว่าเชียงใหม่ คนหนึ่งให้ลงส.ส.เชียงใหม่ เพื่อไทยแทน พร้อมกับ ดันขึ้นมาเป็นหัวหน้าทีมเชียงใหม่ด้วย
แต่ข่าวล่าสุดบอกว่าเพื่อไทยจะดัน สมพงษ อมรวิวัฒน ที่เพิ่งลาออกทิ้งพรรคเพื่อธรรมเมื่อปลายสัปดาห์ และมาสมัครเป็นสมาชิกเพื่อไทยเมื่อสองวันที่แล้ว ลงส.สส เชียงใหม่เขตเดิมของบุญทรง
ขณะที่ล่าสุดเมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชาย ทักษิณ โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ในเรื่องจอมยุทธ์(ดูด)ทางการเมือง โดยระบุตอนหนึ่งว่า”ญาติพี่น้องก็กำลังจะโดนยัดข้อหา โดยการกันคนไปเป็นพยานและปั้นหลักฐานเท็จ เพื่อที่จะหาเรื่องโยนความผิดให้ได้” ซึ่งไม่รู้โอ๊กหมายถึงคดีไหน
สรุปแล้ว เรื่องบุญทรงจึงเป็นเรื่องที่บอกได้ว่า เบื้องหลังอำนาจการเมือง และความร่ำรวยมหาศาล คืออาชญากรรม
ซาบซึ้งน้ำตาไหล ข่าวดี้ดี 4.0 จาก manager “บุญทรง”สู้จากคุกเพื่อลูก เสี่ยงเดิมพันเอาชีวิตแลก
ปัญหาของ นายเดชณัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ บุตรชายนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาให้จำคุกในคดีทุจริตระบายข้าว หรือจีทูจี เป็นเวลา 42 ปี มีสาเหตุมาจากเรื่องอะไร ถึงย้ายตัวเองข้ามฝั่ง จากพรรคเพื่อไทยมาซบพรรคพลังประชารัฐ
เป็นเรื่องที่คอการเมืองคาดไม่ถึง เพราะสายสัมพันธ์เชียงใหม่คอนเนคชั่น ระหว่างบุญทรงกับครอบครัวนายใหญ่แน่นแฟ้นแทบเป็นเนื้อเดียวกัน ขนาดบุญทรงถวายชีวิตให้ได้ ยอมจบชีวิตสุดรันทดในคุกเพียงลำพัง
เมื่อบุญทรงตกระกำลำบากขนาดนี้ ลูกชายบุญทรงก็ควรได้เป็นตัวแทนเป็นทายาททางการเมืองต่อไปในอาณาจักรนายใหญ่ แต่กลับตาลปัตรอยู่พรรคเพื่อไทยไม่ได้ ลูกชายบุญทรงที่หวังจะลงส. ส. เชียงใหม่ในพื้นที่เดิมของพ่อก็ไม่ได้
ก่อนหน้านี้เมื่อหนึ่งเดือนที่แล้วคือเมื่อ 27 ก.ย. แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ร่วมแถลงเปิดตัวกลุ่มคนรุ่นใหม่เพื่อไทย ร่วม30 คน โดยมีนายเดชณัฐวิทย์ เป็นหนึ่งในสายเลือดใหม่ของพรรคเพื่อไทยด้วย
แต่คล้อยหลังมาได้หนึ่งเดือน ลูกชาย บุญทรง ก็ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งหากจะไปอยู่กับพรรคเครือข่ายอย่างไทยรักษาชาติ คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ แต่มาอยู่กับ พลังประชารัฐ กลายเป็นเรื่องทำให้หลายคนสงสัย?
ก่อนจะเกิดเหตุแตกหักระหว่างบุญทรงกับนายเก่ามีกระแสข่าวกระเซ็นกระสายมาตลอด ว่า ฝ่ายบุญทรงที่อยู่ในเรือนจำ ได้ฝากฝังลูกชายกับแกนนำพรรคเพื่อไทยภาคเหนือบางรายที่เคารพนับถือกัน เพื่อขอให้ผลักดันให้ลูกชายได้เป็นทายาทการเมืองในพรรคเพื่อไทย
โดยขอให้ส่งลูกชายลงสมัครส.ส.เขต จังหวัดเชียงใหม่ ในพื้นที่เลือกตั้งเดิมของตัวเอง ซึ่งบุญทรง เป็นอดีตส.ส.เชียงใหม่ มาถึง 4 สมัยแล้ว ก่อนจะพาสชั้นมาเป็นรัฐมนตรี ทั้งรมช.คลัง รมช.พาณิชย์ จนมาเป็นรมว.พาณิชย์
เป็นที่รู้กันดีว่า บุญทรง คือคนของผู้มากบารมีคนหนึ่งในพรรคเพื่อไทย ก่อนหน้านี้ก็คอยเดินตามหลัง บุคคลผู้นั้นตลอดหลายปี จนได้รับการผลักดันให้เป็นเสมือนหัวหน้าทีมเพื่อไทยในจังหวัดเชียงใหม่ จนขึ้น ชั้นเป็นรัฐมนตรีโควต้าเชียงใหม่
จุดนี้ เมื่อบุญทรงติดคุก ก็ทำให้ฝ่ายครอบครัวของบุญทรง มั่นใจว่า ยังไง หากลูกชายได้ลงส.ส.เพื่อไทย น่าจะเป็นส. ส. ได้แน่ ด้วยกระแสของเพื่อไทยในภาคเหนือโดยเฉพาะที่เชียงใหม่ และฐานเสียงเดิมของบุญทรงในพื้นที่ เกือบจะยี่สิบปี ดังนั้น จะทำให้ลูกชาย ได้เป็นส.ส.เชียงใหม่ตามรอยบิดาได้ไม่ยาก
แม้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น จังหวัดเชียงใหม่จะเหลือส.ส. 9 คนจากเดิมที่เคยมี 10คน แต่เรื่องดังกล่าวก็ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการจัดคนลงส.ส. ของเพื่อไทย หากแกนนำเพื่อไทยสายภาคเหนือบางคน ไม่ทอดทิ้งอดีตลูกน้องเก่า อย่างนายบุญทรง
แล้วอะไรคือ จุดที่ทำให้ ลูกชาย บุญทรง ต้องออกจากเพื่อไทย มาอยู่กับพรรคฝ่ายตรงข้ามอย่างพลังประชารัฐ จนถูกคนในเพื่อไทย ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ด่าไล่หลัง นี้คือสิ่งที่ผิดปกติที่สังคมอยากรู้
การตัดสินใจของลูกชายนายบุญทรง ที่กล้าหักกับเพื่อไทย ทางนายเดชณัฐวิทย์ ได้เปิดใจว่าการลาออกจากเพื่อไทย ทางนายบุญทรงก็ไฟเขียว ไม่ได้คัดค้าน และยังได้แนะนำให้ไปคุยกับ สองแกนนำพรรคพลังประชารัฐ
คือสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่เคยอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ยุคไทยรักไทยในมุ้งวังบัวบาน ถึงเรื่องอนาคตทางการเมือง จนสุดท้าย นำมาสู่การเข้าพลังประชารัฐ
นายเดชณัฐวิทย์ระบุว่า สาเหตุที่ออกจากเพื่อไทยเป็นเพราะถูกพาดพิง โจมตีให้เสียหาย จนเกิดความไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นภายในพรรคเพื่อไทยกันเอง นอกจากนั้นพอครอบครัวต้องการความช่วยเหลือ ดันมาขี่ซ้ำ หากอยู่เพื่อไทยต่อมันโหดร้าย
เรื่องราวของครอบครัวนายบุญทรงกับเพื่อไทย จึงน่าจะมีชนวนเหตุเป็นปัญหามาจากคดีขายข้าวจีทูจี ที่ทำให้บุญทรงติดคุก และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหนีคุก ซึ่งตอนนี้ปปช. มีการสอบสวนขยายผลเอาผิดคนที่เกี่ยวข้อง
เป้าหมายคือ เป็นกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังมหากาพย์การโกงขายข้าวจีทูจี ซึ่งมีการวางแนวทางสอบไปถึงคนที่ไม่ได้มีชื่ออยู่ในสำนวนคดีก่อน และเป็นโจรตัวจริงที่โกยเงินทอนไป แต่ยังลอยนวล
เลยทำให้คนใหญ่คนโตหลายคนเกิดอาการหนาวๆร้อนๆ กลัวจะโดนเปิดโปง จนถึงโดนดำเนินคดี เพราะข่าวว่าปปช. จะเอาบุญทรงเป็นพยานให้เปิดปากซัดทอดไปถึงตัวการใหญ่คนโกงที่วางแผนและได้เงินทอนจากการทำจีทูจีปลอมที่มี7-8สัญญา
ข่าวว่า มีการเข้าคุกออกคุกเพื่อสอบบุญทรง เลือกเอาบุญทรงเป็นพยานปากเอก โดยยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนบางอย่าง ที่เห็นชัดก็คือการดูแลสภาพการใช้ชีวิตในคุกให้ดีขึ้น ซึ่งได้เห็นว่าบุญทรงได้รับอนุญาตให้ออกมารักษาตัวโรงพยาบาลตำรวจ และกำลังจะผ่าตัดโรคหมอนรองกระดูกสันหลังอักเสบในวันนี้พรุ่งนี้
ฝ่ายบุญทรงก็ต้องยอมทำตามข้อตกลง ถ้าบุญทรงเปิดปากบอกความจริงกับปปช. ซึ่งเขาถือว่าเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะให้ข้อเท็จจริงสาวไปถึงคนที่อยู่เบื้องหลังมหากาพย์การโกงขายข้าวจีทูจีที่กลายเป็นจีทูเจี๊ยะ และจีทูเจ๊ ในที่สุด ก็เป็นไปได้ว่าเมื่อเจอหลักฐานเด็ดจากพยานปากเอกคราวนี้อาจจะมีคนติดคุกกันทั้งตระกูล
วันนี้ ถ้าบุญทรงเลือกทางที่จะพูดความจริงแล้ว เขาก็จะต้องใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน ปีเศษๆที่ผ่านนอกจากบุญทรงถูกทอดทิ้งให้รับกรรมในคุกอย่างลำบากแล้ว ต่อไปชีวิตเขาอาจจะตกในห้วงอันตรายทุกนาที เพราะเป็นเป้าการเอาชีวิต เพื่อปิดปาก เพราะคุณค่าชีวิตหนึ่งในคุก มีราคาแค่บุหรี่ซองเดียว
ส่วนทายาทก็ถูกตัดหางปล่อยวัดไปแล้ว ซึ่งเป็นเหตุที่นายเดชณัฐวิทย์ต้องอพยพหนีจากค่ายเพื่อไทย ไปซับน้ำตาอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐ
เรื่องนี้คนเพื่อไทยสายเหนือรู้กันว่า มีคำสั่งของคนมีอำนาจบางคน สั่งไม่สนับสนุนลูกชายบุญทรงลงทำงานการเมือง โดยได้ยึดโควต้าผู้ลงสมัครส.ส.เชียงใหม่ คืนไปแล้ว ปละวางตัวอดีตผู้ว่าเชียงใหม่ คนหนึ่งให้ลงส.ส.เชียงใหม่ เพื่อไทยแทน พร้อมกับ ดันขึ้นมาเป็นหัวหน้าทีมเชียงใหม่ด้วย
แต่ข่าวล่าสุดบอกว่าเพื่อไทยจะดัน สมพงษ อมรวิวัฒน ที่เพิ่งลาออกทิ้งพรรคเพื่อธรรมเมื่อปลายสัปดาห์ และมาสมัครเป็นสมาชิกเพื่อไทยเมื่อสองวันที่แล้ว ลงส.สส เชียงใหม่เขตเดิมของบุญทรง
ขณะที่ล่าสุดเมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชาย ทักษิณ โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ในเรื่องจอมยุทธ์(ดูด)ทางการเมือง โดยระบุตอนหนึ่งว่า”ญาติพี่น้องก็กำลังจะโดนยัดข้อหา โดยการกันคนไปเป็นพยานและปั้นหลักฐานเท็จ เพื่อที่จะหาเรื่องโยนความผิดให้ได้” ซึ่งไม่รู้โอ๊กหมายถึงคดีไหน
สรุปแล้ว เรื่องบุญทรงจึงเป็นเรื่องที่บอกได้ว่า เบื้องหลังอำนาจการเมือง และความร่ำรวยมหาศาล คืออาชญากรรม